ปัญหาในการมาถึงของ San Andreas ในปีนี้ คือมันผ่านช่วงเวลาตื่นตูมตกใจ ในวิกฤตการณ์วันสิ้นโลก 2012 จากนอสตราดามุส ปฏิทินมายัน และสารพัดคำทำนาย ที่ทำให้เกิดกระแสภาพยนตร์ภัยพิบัติทะลักล้นไปแล้ว และผู้ชมก็ชินตากับภัยธรรมชาติบนจอไปเรียบร้อย การซ้ำทางแบบนี้จึงน่าเป็นห่วงอยู่พอตัว แนวทางที่หนังเรื่องนี้นำมาแก้เกม คือการพยายามทำให้คนดูเชื่อว่า สิ่งที่เห็นนั้นเป็นจริง ทั้งในส่วนของแผ่นดินไหว และความสัมพันธ์ในครอบครัว แต่ทว่ามันสำเร็จและล้มเหลวไปพร้อมๆ กัน
San Andreas ถ่ายทอดเรื่องราวของ เรย์ หัวหน้าหน่วยนักบินเฮลิคอปเตอร์กู้ภัย ที่มีปัญหาระหองระแหงกับ เอ็มมา ภรรยาที่ห่างกันไป และเป็นห่วง เบลค ลูกสาวสุดรักอยู่ในที จนเกิดแผ่นดินไหวครั้งมโหฬาร นำมาซึ่งการพังทลายของเมืองเสียย่อยยับ เรย์ พร้อมฮ.คู่ใจ ต้องตามไปช่วยภรรยาและลูกสาว ให้รอดตายจากมหันตภัยครั้งนี้ แต่อุปสรรคนานัปการก็ค่อยๆ ถาถมเข้ามาไม่หยุด
กลวิธีที่ San Andreas ใช้สร้างภาพของแผ่นดินไหว คลื่นยักษ์ และซากแห่งความย่อยยับอับปางนั้น ไม่ติดปัญหาอะไร เพราะมันเนี้ยบกริบ อลังการได้ตามมาตรฐานเทคนิคพิเศษฮอลลีวูดอย่างไม่ขวยเขิน แต่ปัญหาทั้งหมดตกไปอยู่ที่กลุ่มศาสตราจารย์และผู้รู้ในเชิงวิชาการแผ่นดินไหว ที่คิดค้นเครื่องแจ้งเตือนได้สำเร็จ และนำปัญหา รวมไปถึงข้อเท็จจริงต่างๆ ในสภาพความรู้เพียวๆ หลักวิทยาศาสตร์ที่ถอดมาจากหนังสือ มาถกเถียงอภิปราย และว้าวุ่นพยายามอธิบายให้คนดูได้รู้อย่างยืดยาว ฉากเหล่านี้เป็นส่วนเกินที่มากมายเกินจำเป็น และสร้างความน่าเบื่อให้หนังอยู่ไม่น้อย หลักการเหล่านี้อาจช่วยให้ภาพตรงหน้าดูน่าเชื่อถือขึ้นก็จริง แต่วิธีทื่อมะลื่อตรงไปตรงมานี้ มันไม่ได้ผลนะศาสตราจารย์
หากส่วนเกินที่หนังตั้งใจใส่มาช่วย (แต่ผลออกมาซวยมากกว่า) ในช่วงอารัมภบทที่ออกจะเต็มไปด้วยทฤษฎีผ่านไป การแบ่งรับแบ่งสู้เรื่องราวออกเป็น 3 เส้น 3 สถานที่ คือ เรย์ ที่ออกบินทดสอบเครื่อง / เอ็มมา ที่อยู่บนตึกสูง / เบลค อยู่อีกตึกสูงหนึ่่ง จนเกิดแผ่นดินไหวตูมตามครั้งใหญ่ เรื่องราวทั้งหมดจึงมาบรรจบกันได้ และเร่งจังหวะ ให้ชวนสนุกตื่นเต้นขึ้นมาบ้างหลังจากฟังเลคเชอร์อยู่เสียนาน แต่ถึงกระนั้นเมื่อตัวละครที่รับบทโดย เดอะร็อค ออกจะครบองค์สุดเก๋า เก่งกล้าสามารถเหนือระดับหน่วยกู้ภัย ราวกับเล่นเกมส์ใช้สูตรขนาดนี้ ความสมจริงของภัยพิบัติที่พยายามสร้างมาก็พังไปอีกรอบ เพราะคุณพ่อคนนี้ เขาเหนือจริงไปเสียแล้ว
.
ตั้งหน้าตั้งตาช่วยลูกเมีย จนหลังชนฝา
จนไม่อาจไปต่อใดๆ ให้คนดูได้เห็นคุณค่าของชีวิตได้อีก
.
แต่เดี๋ยวก่อนครับคุณผู้ชม San Andreas มิได้พังพาบตามอาคารไปขนาดนั้น ในขณะที่เส้นเรื่องคุณพ่อใช้สูตรอมตะไปเรียบร้อย เส้นเรื่องของ เบลค อันเป็นลูกสาวเชื่อไม่ทิ้งแถวนั้น น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง ด้วยความรู้ด้านการเอาชีวิตรอดที่ได้มาจากพ่อ เมื่อรวมกับการที่เธอต้องมีเพื่อนร่วมทางเป็นไอ้หนุ่มไม่เอาอ่าว ทำอะไรไม่เป็น แถมปอดแหกเล็กๆ ที่กระเตงน้องชายยียวนมาด้วยแล้ว ความเป็นหญิงแกร่งก็ยิ่งเด่นชัด และคอยลุ้นไปว่าเธอจะงัดเอาความรู้ตรงไหน มาใช้แก้ปัญหาตรงหน้าให้ผ่านพ้น และขับเคลื่อนไปพร้อมๆกับความรักกุ๊กกิ๊กระหว่างชายหญิงด้วย ซึ่งเราสามารถสัมผัสและเห็นพัฒนาการได้มากกว่ารุ่นคุณพ่อคุณแม่ ที่จับต้องอะไรไม่ค่อยจะได้นัก
โดยองค์รวมแล้ว หาก San Andreas จะเลือกเส้นเรื่องทั้งสองที่พันอีนุงตุงนังกัน มาเน้นย้ำเพียงประเด็นเดียว หนังอาจจะน่าสนใจ และเอาใจช่วยในโลกกลางหายนะครั้งนี้มากขึ้น แต่การเหมาหมดรักพี่เสียดายน้อง ทั้งความจริงทางวิทยาศาสตร์ ครอบครัว และรักหนุ่มสาว มากมายขนาดนี้ และทำให้ตัวละครเด่นที่สุดตั้งแต่ตัวอย่างหนังอย่าง เรย์ ต้องตั้งหน้าตั้งตาช่วยลูกเมีย จนหลังชนฝา มิใช่ในความหมายว่าไม่ย่อท้อ และพยายามสุดชีวิต (เพราะพี่เก่งขนาดนั้นไปแล้ว) แต่หลังชนฝา จนไม่อาจพัฒนาเรื่องราว หรือไปต่อในความสัมพันธ์ใดๆ ที่คนดูได้ประทับใจและเห็นคุณค่าของชีวิตได้อีกอย่างน่าเสียดาย
เรื่องนี้จัดไป 7 / 10 ครับ
Lecter.
————————————–
The post San Andreas : เพื่อลูกเมีย ข้าจะสู้หลังชนฝา appeared first on MThai Movie.